รู้จักกับสายไฟ VAF คืออะไร? แต่ละขนาดเลือกใช้ยังไง?
สายไฟที่ใช้งานง่าย ติดตั้งสะดวก และราคาย่อมเยา สายไฟ VAF เหมาะกับการใช้งานในบ้าน อาคาร หรือแม้แต่งานรีโนเวททั่วไป แต่แน่นอนว่า ทุกสายไฟมีข้อดีและข้อจำกัดต่างกัน บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจสายไฟ VAF แบบละเอียด พร้อมคำแนะนำที่ช่วยให้ใช้งานแต่ละขนาดได้อย่างเหมาะสม
ทำความรู้จักสายไฟ VAF กันก่อน
สายไฟ VAF เป็นสายไฟประเภทที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในประเทศไทย มีลักษณะเป็น สายแบนสีขาว และมี แกนตัวนำทองแดง 2-3 เส้น (ขึ้นอยู่กับรุ่น) มีฉนวน PVC ที่ทนต่อความร้อนและความชื้น โดยสามารถรองรับแรงดันไฟฟ้าได้ถึง 300/500 โวลต์ และทนอุณหภูมิสูงสุด 70°C
จุดเด่นของสายไฟ VAF ที่ทำให้ได้รับความนิยม
- ลักษณะสายแบน สีขาว ดูสะอาดตา สายไฟ VAF เป็นสายไฟชนิดแบน ทำให้เดินสายลอยได้ง่าย เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความเรียบร้อย เช่น การติดตั้งในบ้าน
- ติดตั้งง่าย ไม่ต้องร้อยท่อ ด้วยลักษณะของสายไฟที่แข็งแรงและไม่ต้องเดินผ่านท่อร้อยสายไฟ ทำให้ประหยัดเวลาและลดต้นทุนในการติดตั้ง
- ราคาย่อมเยา เมื่อเทียบกับสายไฟชนิดอื่น เช่น สาย THW หรือ NYY สายไฟ VAF มีราคาประหยัดกว่า โดยเฉพาะในขนาดและจำนวนแกนที่ใกล้เคียงกัน
- ความยืดหยุ่นสูง สายไฟ VAF งอหรือปรับทิศทางได้ง่าย ทำให้เหมาะสำหรับงานติดตั้งในพื้นที่แคบหรือโครงสร้างที่ซับซ้อน
- ความคงทนต่อสารเคมีและการกัดกร่อน ฉนวน PVC ของสายไฟ VAF มีความทนทานต่อสารเคมีที่อาจส่งผลต่อการใช้งานสายไฟ เช่น สารทำความสะอาด หรือไอระเหย
ข้อจำกัดที่ต้องรู้ก่อนเลือกใช้สายไฟ VAF
- ห้ามฝังดินโดยตรง
- สายไฟ VAF ไม่สามารถรองรับแรงกดหรือความชื้นในดินได้ หากต้องการติดตั้งในดิน ควรใช้สายไฟที่ออกแบบมาเฉพาะ เช่น สาย NYY
- ไม่เหมาะกับพื้นที่ที่มีความชื้นสูง
- การใช้งานในห้องน้ำหรือพื้นที่กลางแจ้งที่มีน้ำขังไม่แนะนำสำหรับสายไฟ VAF เพราะอาจทำให้ฉนวนเสื่อมสภาพ
- ไม่รองรับระบบไฟฟ้า 3 เฟส
- หากต้องใช้กับระบบไฟฟ้าที่มีกำลังไฟสูงหรือวงจร 3 เฟส ควรเลือกสายไฟ THW หรือสาย NYY แทน
ประเภทของสายไฟ VAF ที่ควรรู้
สายไฟ VAF มีให้เลือก 2 ประเภทหลัก ได้แก่
- VAF แบบไม่มีสายกราวด์
- เหมาะสำหรับงานเดินสายทั่วไปในบ้านหรืออาคาร
- VAF-G แบบมีสายกราวด์
- มีสายดินเพิ่มมา 1 เส้นในตัวสายไฟ เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่น การติดตั้งระบบไฟฟ้าที่เชื่อมต่อกับเครื่องใช้ไฟฟ้า
การเลือกใช้งานขนาดสายไฟ VAF แต่ละขนาดที่เหมาะสม
- สายไฟ VAF ขนาด 1.5 ตารางมิลลิเมตร (sq.mm.) พิกัดกระแสรองรับได้ประมาณ 16-20 แอมแปร์
เหมาะสำหรับเดินสายไฟที่ใช้กับดวงโคมและหลอดไฟ เช่น หลอด LED หลอดฟลูออเรสเซนต์ ใช้ในวงจรที่ไม่กินกระแสไฟมาก เช่น ระบบไฟในห้องนอนหรือห้องนั่งเล่น เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก เช่น พัดลมตั้งโต๊ะ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีกำลังไฟต่ำ ห้ามใช้กับวงจรที่ต้องการโหลดไฟสูง เช่น เต้ารับที่ใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้ากำลังสูง
- สายไฟ VAF ขนาด 2.5 ตารางมิลลิเมตร (sq.mm.) พิกัดกระแสรองรับได้ประมาณ 20-27 แอมแปร์
ใช้งานกับเต้ารับทั่วไป เหมาะสำหรับวงจรที่ใช้กับปลั๊กไฟหรือเต้ารับ เช่น ทีวี ตู้เย็น หรือเตาไมโครเวฟ ใช้ในวงจรย่อยสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดกลาง เครื่องใช้ไฟฟ้ากำลังปานกลาง เช่น แอร์ขนาดเล็ก (9,000-18,000 BTU) หรือปั๊มน้ำขนาดเล็ก สายไฟขนาดนี้เป็นหนึ่งในขนาดที่ใช้งานแพร่หลายมากที่สุด เพราะรองรับการใช้งานในบ้านพักอาศัยทั่วไป
- สายไฟ VAF ขนาด 4 ตารางมิลลิเมตร (sq.mm.) พิกัดกระแสรองรับได้ประมาณ 27-36 แอมแปร์
ใช้งานกับเครื่องใช้ไฟฟ้ากำลังสูงขึ้น เช่น เครื่องทำน้ำอุ่นขนาด 3,500-4,500 วัตต์ หรือแอร์ขนาด 24,000 BTU ใช้ในระบบไฟฟ้าที่ต้องรองรับโหลดไฟสูงกว่าเต้ารับปกติ ระบบไฟฟ้าสำหรับห้องขนาดใหญ่ เช่น การเดินสายไฟในห้องครัวหรือห้องที่มีการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าพร้อมกันหลายเครื่อง สำหรับวงจรไฟฟ้าที่ต้องการเสถียรภาพและลดปัญหาแรงดันตก
- สายไฟ VAF ขนาด 6 ตารางมิลลิเมตร (sq.mm.) พิกัดกระแสรองรับได้ประมาณ 36-46 แอมแปร์
ใช้งานที่กับวงจรเมนไฟฟ้าขนาดเล็กในบ้าน ใช้เป็นสายเมนจากตู้ไฟฟ้าไปยังวงจรย่อย เหมาะกับระบบที่ต้องการโหลดไฟฟ้ารวมสูง เช่น การเดินสายไฟไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ เครื่องใช้ไฟฟ้ากำลังสูง เช่น เครื่องทำน้ำร้อน, เตาอบไฟฟ้าขนาดใหญ่ หรือปั๊มน้ำกำลังสูง ควรติดตั้งในรางสายไฟที่เหมาะสมเพื่อลดความร้อนสะสม
- สายไฟ VAF ขนาด 10 ตารางมิลลิเมตร (sq.mm.) พิกัดกระแสรองรับได้ประมาณ 50-60 แอมแปร์
เหมาะสมกับสายเมนไฟฟ้าขนาดใหญ่ในบ้าน ใช้เดินสายไฟจากตู้ไฟหลักไปยังตู้ไฟย่อยหรือระบบไฟฟ้าที่ต้องรองรับโหลดสูง ระบบไฟฟ้าอุตสาหกรรมเบา เช่น เครื่องจักรหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ในโรงงานขนาดเล็ก รองรับกระแสไฟสูง ลดปัญหาแรงดันตกในวงจรที่ใช้พลังงานมาก
- สายไฟ VAF ขนาด 16 ตารางมิลลิเมตร (sq.mm.) ขึ้นไป พิกัดกระแสรองรับได้ประมาณ 75-100 แอมแปร์ (ขึ้นอยู่กับขนาด)
ใช้งานกับระบบไฟฟ้าหลักในโรงงานหรืออาคารใช้ในระบบไฟฟ้าที่ต้องการกระแสไฟสูง เช่น การเดินสายไฟเมนในโรงงานอุตสาหกรรม เหมาะสำหรับระบบที่เชื่อมต่อกับเครื่องจักรขนาดใหญ่ หรืองานติดตั้งพิเศษ เช่น ระบบไฟฟ้าในพื้นที่ที่ต้องการความเสถียรสูงและโหลดต่อเนื่อง การติดตั้งสายไฟขนาดใหญ่นี้ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญในการคำนวณโหลดไฟฟ้าและติดตั้ง
หลักการเลือกขนาดสายไฟ VAF ที่เหมาะสม
- คำนวณโหลดไฟฟ้าที่ใช้งานจริง
– ตัวอย่างเช่นถ้าคุณใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าหลายเครื่องพร้อมกัน ให้รวมกระแสไฟฟ้าที่แต่ละเครื่องต้องใช้ และเลือกสายไฟที่รองรับได้มากกว่ากระแสที่คำนวณอย่างน้อย 25%
- พิจารณาระยะทางของสายไฟ
– หากระยะทางของสายไฟยาวกว่า 10 เมตร ควรเพิ่มขนาดสายไฟเพื่อป้องกันแรงดันตก
- เลือกขนาดสายไฟที่สอดคล้องกับเบรกเกอร์
– ตัวอย่างเช่นถ้าใช้เบรกเกอร์ 20 แอมแปร์ ควรเลือกสายไฟที่รองรับได้อย่างน้อย 20-25 แอมแปร์
- ตรวจสอบมาตรฐาน มอก.
– เลือกสายไฟที่มีเครื่องหมายรับรอง มอก. เพื่อความปลอดภัย
ตัวอย่างการใช้งานสายไฟ VAF ที่เหมาะสม
- การเดินสายไฟในบ้าน
- ใช้สำหรับเดินสายหลอดไฟ เต้ารับ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าขนาดเล็ก
- งานรีโนเวทหรือก่อสร้าง
- สายไฟ VAF เหมาะสำหรับติดตั้งในอาคารหรือโครงสร้างใหม่ เนื่องจากติดตั้งง่ายและสามารถปรับเปลี่ยนได้สะดวก
- งานเดินสายไฟแบบลอย
- ด้วยลักษณะสายแบนที่ดูเรียบร้อย ทำให้เหมาะกับงานเดินสายลอยภายในอาคาร
สรุป
สายไฟ VAF เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับงานระบบไฟฟ้าภายในบ้าน อาคาร หรือโครงการทั่วไป ด้วยคุณสมบัติที่ยืดหยุ่น ติดตั้งง่าย และราคาย่อมเยา แต่ต้องใช้งานให้ถูกประเภท เช่น ห้ามฝังดินหรือใช้ในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เลือกสายไฟ VAF ที่เหมาะสม ไม่เพียงช่วยประหยัดต้นทุน แต่ยังเพิ่มความปลอดภัยและความสวยงามให้กับงานติดตั้งของคุณ